ลูกยอ ยาชั้นเลิศช่วยขับลมและช่วยย่อยอาหาร
ยอ ชื่อสามัญ Great morinda, Tahitian noni, Indian mulberry, Beach mulberry เป็นพืชในวงศ์เดียวกับเข็ม (RUBIACEAE) มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ยอ แย่ใหญ่ (แม่ฮ่องสอน), ตาเสือ มะตาเสือ (ภาคเหนือ), ยอบ้าน (ภาคกลาง) เป็นต้น พบได้ในอินเดีย ถึงตอนใต้ของจีน ลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ทรงพุ่มแน่นทึบ แตกกิ่งก้านจำนวนมาก ติดดอกออกผลตลอดปี นิยมใช้เป็นอาหารและสมุนไพรรักษาโรค
• ใบ มีวิตามินเอ 40,000 ยูนิตสากลต่อ 100 กรัม มีคุณสมบัติในการบำรุงสายตา หัวใจ คั้นน้ำทาแก้โรคเก๊าท์ ปวดตามข้อเล็กๆ ของนิ้วมือ นิ้วเท้า สระผมฆ่าเหา แก้กระษัย ใช้ใบปรุงเป็นอาหาร แก้ท้องร่วง
• ราก ใช้เป็นยาระบาย แก้กระษัย ใช้สกัดสีออกมา เป็นสีย้อมผ้าได้
• ผล โตเต็มที่แต่ไม่สุก จิ้มน้ำผึ้งรับประทาน มีคุณสมบัติเป็นยาขับลม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ขับลมในลำไส้ กระเพาะอาหาร แก้เหงือกเปื่อยเป็นขุมบวม ขับเลือดลม ขับโลหิตประจำเดือน ผลดิบ ต้มน้ำรับประทานกับรากผักชี แก้อาการอาเจียนของหญิงมีครรภ์
องค์ประกอบทางเคมี: ผลยอมีสารเคมี Asperuloside, caproic acid, caprylic acid และ glucose
ประโยชน์ต่อสุขภาพ
ลูกยอจัดเป็นยาสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเรื่องการช่วยแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และถูกบรรจุอยู่ในยาสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน โดยลูกยอสุกเป็นยาชั้นเลิศในการช่วยขับลมและช่วยย่อยอาหาร
ลูกยอ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลากชนิด โดยลูกยอบดจะประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุเหล็ก ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม เป็นต้น แต่ถ้าคั้นเอาแต่น้ำลูกยอจะเหลือแต่วิตามินซี นอกจากนี้ลูกยอยังมีสารอื่น ๆ อีกด้วย เช่น กรดไขมัน ลิกนิน พอลิแซ็กคาไรด์ ฟลาโอนอยด์ อีริดอยด์ สโครโปเลติน แอลคาลอยด์ (แต่ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ)
สรรพคุณ:
ตำรายาไทย: ผลมีรสเผ็ดร้อน ช่วยขับลมในลำไส้ ขับผายลม บำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร ผสมในยาแก้สะอึก อมแก้เหงือกเปื่อย เหงือกบวม ขับระดูเสีย ขับเลือดลม ฟอกเลือด ขับน้ำคาวปลา แก้เสียงแหบแห้ง แก้ตัวเย็น แก้ร้อนในอก แก้กระษัย แก้อาเจียน โดยนำมาหมกไฟหรือต้มกับน้ำกิน หรือนำมาจิ้มกับน้ำผึ้งทาน ตำราสรรพคุณยาไทยกล่าวว่าผลอ่อนกินเป็นยาแก้คลื่นเหียนอาเจียน ผลสุกงอมเป็นยาขับระดูสตรี ผลดิบเผาเป็นถ่านผสมเกลือเล็กน้อย อมแก้เหงือกเปื่อยเป็นขุมบวม หั่นปิ้งไฟพอเหลืองทำกระสายยา เมล็ดเป็นยาระบาย
ตำรายาไทยมีการใช้ ผลยอ ใน”พิกัดตรีผลสมุฎฐาน” คือการจำกัดจำนวนตัวยาที่มีผลเป็นที่ตั้ง 3 อย่าง มีผลมะตูม ผลยอ ผลผักชีลา สรรพคุณแก้สมุฎฐานแห่งตรีโทษ ขับลมต่างๆ แก้โรคไตพิการ
สาระสำคัญที่มีอยู่ในลูกยอ
จากการศึกษาวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกาโดยแพทย์และนักวิจัยหลายท่านพบว่า สารสำคัญที่พบในลูกยอมีมากมายถึงกว่า 140 ชนิด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้ คือ
1. สารโพรเซอร์โอนีน(Proxeronine) เมื่อรวมตัวกับเอนไซม์โพรซอร์โอเนสจะได้เป็นสารเซอร์ไอนี่น ที่ลำไส้ใหญ่และเมื่อดูดซึมกลับสู่เซลล์ต่างๆ ในร่างกายจะช่วยปรับสภาพเซลล์ให้มีความสมดุล แข็งแรง และมีภูมิต้านทานที่ดี อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติและกระตุ้นให้เซลล์ใหม่เติบโต และทำหน้าที่ได้เป็นปกติ ซึ่งสารสำคัญนี้มีคุณสมบัติในการช่วยขับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและเนื้องอกได้
2. สารสโคโปเลติน (Scopoletin) สารชนิดนี้จะมีคุณสมบัติช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว จึงสามารถลดความดันโลหิตสูงกลับเป็นปกติได้ และมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ รวมทั้งยังช่วยให้มีพลังงานและขจัดความรู้สึกอ่อนเพลียลง
3. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) มีหลากหลายชนิด ซึ่งมีผลเสริมฤทธิ์กันในการขจัดอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
- สารไบโอฟลาไวนอยด์ มีประโยชน์ในการบรรเทาปวดและต้านอักเสบ ทำให้หลอดเลือดมีความแข็งแกร่งขึ้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือด เสริมภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยให้ตับทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ลดระดับโคเลสเตอรอลและบำรุงสายตา
- คาโรทีนอยค์ (Carotenoid) มีบทบาทสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ และพบว่าได้ประโยชน์ใกล้เคียงกับสารไบโอฟลาโวนอยด์
- วิตามินซี เป็นสารสำคัญที่มีฤทธิ์ในการต้านการคิดเชื้อไวรัส ช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโครงสร้างของผิวหนัง กระดูกและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีผลลดระดับฮิสตามีน ซึ่งเป็นเหตุสำคัญในการก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้
- วิตามินอี มีส่วนช่วยในการป้องกันภาวะอุดตันของหลอดเลือด และช่วยบรรเทาอาการปวดชา ลดความดันเลือดสูง ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
- ซีสเตอีน (Cysteine) ซึ่งมีบทบาทในการขจัดอนุมูลอิสระ และยังมีผลในการขจัดสารพิษจากแอลกอฮอล์ บุหรี่ และมลพิษในอากาศต่างๆ
- ซีลีเนียม (Selenium) มีความสำคัญในการป้องกันความเสื่อมที่พบในโรคเบาหวาน และมีบทบาทสูงในการเสริมภูมิต้านทานโรค
4. วิตามินและเกลือแร่ มีหลากหลายชนิด เช่นแมกนีเซียม มีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานของเอนไซม์ และช่วยในการดูดซึมแคลเชียมและโพแทสเซียม และยังพบธาตุเหล็กซึ่งจะช่วยในการสร้างเฮโมโกลบิน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกาย
5. กรดอะมิโน เป็นสารสำคัญที่ใช้ในการสังเคราะห์โปรตีน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างร่างกายมนุษย์เพราะโปรตีนมีหน้าที่ในการสร้างกล้ามเนื้อ ผิวหนัง เอ็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ต่อมไร้ท่อ เล็บ ผม และกระดูก นอกจากนี้ยังมีส่วนในการสังเคราะห์ฮอร์โมน เอนไซม์และยีนส์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของพันธุกรรม
6. สารประเภทอื่นๆ นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วลูกยอยังประกอบด้วยสารสำคัญอีกกว่า 100 ชนิด เช่นแอนทราควิโนน ( Antraquinone ) ที่ช่วยควบคุมการติดเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อโรคต่างๆ อีกทั้งยังมีการวิจัยพบว่าสามารถป้องกันโรคหัวใจและโรคบิดได้
ผลิตภัณฑ์จากลูกยอที่ขายในบ้านเรา จะมีอยู่หลายรูปแบบ แต่ที่นิยมมากจะอยู่ในรูปน้ำผลไม้ผสม คือน้ำลูกยอผสมกับน้ำผลไม้ชนิดอื่นๆ เพื่อให้มีกลิ่นรสชวนดื่ม เนื่องจากโดยปกติน้ำลูกยอจะมีรสชาติไม่ชวนให้อยากลิ้มลองเท่าใดนัก ยิ่งเป็นลูกยอสุกจะมีกลิ่นรุนแรงมากขึ้น โดยจะผลิตขายในลักษณะเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ ทำให้มีราคาแพง นอกจากนี้ก็มีการผลิตในรูปแบบผงลูกยอแห้ง ซึ่งมีทั้งการทำแห้งแบบอบด้วยความร้อน และการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (Freeze-dried) ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะบรรจุอยู่ในแคปซูล ซึ่งใช้ได้สะดวกและไม่มีปัญหาด้านกลิ่นรสชาติ ทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งยังมีความเข้มข้นกว่าแบบเป็นเครื่องดื่ม เก็บรักษาก็ง่าย โดยเฉพาะการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็งจะให้สรรพคุณดีกว่าการอบแห้งด้วยความร้อน แต่มีต้นทุนการผลิตสูงกว่า นอกจากนั้นก็อาจจะผลิตในรูปชาลูกยอใช้ชงน้ำดื่ม อย่างไรก็ตาม บางท่านอาจจะนำลูกยอดิบมาสับทำเป็นส้มตำรับประทานโดยตรง ซึ่งก็ยิ่งดีเพราะได้ทั้งความสด ราคาถูก อร่อยและบำรุงสุขภาพด้วย
ประโยชน์ของน้ำลูกยอ
จากผลการศึกษาวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถสรุปเป็นประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้
- ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน เกลือแร่ และกรดอะมิโนหลากหลายชนิด
- ให้กำลังงานแก่ร่างกาย และควบคุมสมดุลในการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ
- เสริมสร้างภูมิต้านทาน และป้องกันการติดเชื้อ
- ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้และโรคภูมิต้านทาน ทำร้ายร่างกาย (Autoimmune Diseases)
- ป้องกันโรคที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกิดจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ได้แก่ ภาวะการตีบตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ความดันเลือดสูง ลำไส้ใหญ่อักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ ต้อกระจก และมะเร็งบางชนิด
- ช่วยลดความดันเลือดสูง ลดกรดในกระเพาะอาหารและช่วยในการย่อยและดูดซึมอาหาร
- บรรเทาอาการปวดและต้านอักเสบ
- ช่วยในผู้ที่มีปัญหาโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- ช่วยในผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- ไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้ว เพราะมิฉะนั้นแล้ว ร่างกายจะได้รับโพแทสเซียม แคลเซียม ในปริมาณที่สูงเกินไป ซึ่งอาจมีปัญหากับไตได้ ยิ่งคนที่เป็นโรคไตยิ่งต้องระวัง หากดื่มมากไป อาจทำให้ไตวายเฉียบพลัน
- สำหรับหญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานผลยอ เพราะจะมีผลโดยตรงต่อระบบการหมุนเวียนของเลือดในครรภ์ และอาจทำให้แท้งบุตรได้
ข้อคิดก่อนรับประทาน
ผลข้างเคียงในการใช้น้ำลูกยอ ผลข้างเคียงจากการดื่มน้ำลูกยอคั้นสด พบน้อยมาก บางคนอาจเกิดอาการท้องอืด หรือระบายท้องในครั้งแรก ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปได้ใดยลดขนาดการรับประทานลง แต่ข้อควรระวังคือ น้ำลูกยอนั้นมีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก เช่นเดียวกับน้ำมะเขือเทศ ผู้ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังจึงไม่ควรรับประทน เพราะอาจเกิดอันตรายได้
ดังนั้นในการเลือกใช้สมุนไพรที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากสายพันธุ์และพื้นที่ซึ่งใช้เพาะปลูก และหากใช้ในรูปแบบของยาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ควรพิจารณาถึงผู้ผลิตว่าจะมีมาตรฐานพอเพียงหรือไม่ และขนาดที่ใช้อย่างเหมาะสมควรถือตามข้อมูลที่เป็นผลการวิจัยหรือประสบการณ์ในการใช้
แหล่งข้อมูล
ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง
วารสารกรมวิทยาศาสตร์ ฉบับที่ 160 ก.ย.2545 โดยวริศรา แสงไพโรจน์
รวบรวมและเรียบเรียงโดยเซนเฮิร์บชอป
ใส่ความเห็น